http://supattraaew.blogspot.com

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วิธีการลง Windows XP Professional


1.ใส่แผ่น CD + Restart เครื่อง แล้วกด F10
2.Boot>เลือก Boot Device Priority แล้วกด Enter> เลือก 1St Boot Device [CD-ROM Group]
3.กด F10,YES,ENTER
4.กด Esc ถ้าอยู่ในไดร์ D กด L
5.เลือกไดร์ C>ENTER กด C
6.เลือก [Quick] ENTER กด F
7.หน้าจอจะแสดง Windows xp Professional Setup ตั้งชื่อ IT_12
8.ลบ Password>ENTER
9.หน้าจอแสดง Welcome to Microsoft Windowsกด Next
10.หน้าจอแสดง Help proect your PC ตลิก Not right now กด Next
11.หน้าจอแสดง Who will use this computer ตั้งชื่อ Your name IT_12 กด Next
12.กด Finish
การติดตั้ง Windows ยังไม่เสร็จเท่านี้นะ มีต่อ
13.คลิกขวาเลือก Properties
14.ขึ้นหน้าจอ Display Properties เลือก Desktop
15.ขึ้นหน้าจอ Display Properties เลือก Customize Desktop
16.ขึ้นหน้าจอ Desktop ltems ให้เราคลิก My Documents ,My Network ,My Computer แล้วกด OK
17.ขึ้นหน้าจอ Display Properties ให้กด OK
18.คลิกขวาเลือก Properties
19.ขึ้นหน้าจอ Display Properties เลือก Settings
20.คลิกขวาเลือก Display Properties ปรับให้เป็น 1,024 แล้วกด OK และกด Yes

สรุป การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking)


สรุปการคิดเชิงสร้างสรรค์
สร้างสรรค์ ให้ความหมายถึงความคิดแง่บวกคือการพูดแง่บวก โดยที่ไม่มีในที่เกี่ยวข้องกลับความแตกต่าง หรือแปลกใหม่ ทั้งนี้ความคิดแง่บวกเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับลักษณะนิสัยมากกว่าวิธีคิด ตรงข้ามกับความคิดแง่ลบ ซึ่งหมายถึงความคิดที่ไม่ดีงาม คิดไม่ดีกับผู้อื่นหรือตนเอง คิดบั่นทอนกำลังใจ
สร้างสรรค์ ให้ความหมายถึงการกระทำที่ไม่ทำร้ายใคร ใช้ในการคิดที่ไม่ทำร้ายใคร การคิดและการกระทำในเชิงบวก มุ่งหมายเสริมสร้างให้ดีขึ้น ตรงข้ามกับความคิดและการกระทำในเชิงลบที่มุ่งทำลาย เป็นลักษณะการเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และสารมารถเอาไปใช้ได้
ความคิดนั้นที่จะสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้ 2 ทาง
1. เริ่มจากจินตนาการ แล้วย้อนกลับสู่สภาพความเป็นจริง คือการคิดจินตนาการจากความฝัน ทำให้เป็นความจริงขึ้นมา
2.เริ่มจากความรู้แล้วคิดต่อยอดสู่สิ่งใหม่ คือการนำความรู้ที่มีอยู่แล้ว โดยเราไม่ได้คิดขึ้นมาเองนำมาทำให้เป็นสิ่งใหม่ๆ
ความคิดสร้างสรรค์ลักษณะนี้เกิดจากการนำเอาข้อมูลหรือความรู้ที่มีอยู่มาคิดต่อยอดหรือคิดเพิ่ม ฐานข้อมูลที่มีอยู่จะเป็นเหมือน ”ตัวเขี่ยความคิด” ให้เราคิดในเรื่องใหม่ ๆ
การคิดเชิงสร้างสรรค์ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม หมายถึง การขยายขอบเขตความคิดออกไปจากกรอบความคิดเดิมที่มีอยู่ สู่ความคิดใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อค้นหาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น
ลำดับขั้นของการคิดเชิงสร้างสรรค์
การคิดเชิงสร้างสรรค์ มักประกอบไปด้วยขั้นตอนสำคัญ ดังนี้
- คิดอย่างมีเป้าหมาย ที่จะทำให้เราไปสู่ความสำเร็จ
- แสวงหาแนวคิดใหม่ๆ ที่จะแตกต่างเพื่อให้เป้าหมายที่เราคิดสำเร็จ
- ประเมินและคัดเลือกแนวคิดที่เราคิดได้มากลั่นกรอง สมเหตุสมผลตามความต้องการของเป้าหมาย
ทัศนคติของนักคิดสร้างสรรค์
เราต้องทำลายกรอบแห่งความคิด ทัศนคติที่ผิดๆ ให้คิดในแง่ที่ดีดี อย่าคิดในแง่ร้าย หยุดที่จะกลัวในความคิดในสิ่งที่จะลองทำ คิดตามใจตนเองอย่าดึงเพื่อนมาคิด เปิดรับประสบการณ์ หาความรู้ไม่ปิดโอกาสของตนเอง อย่ารักสบาย ต้องอดทนบากบั่น ทำให้สำเร็จ ไม่กลัวที่จะคิดต้องกล้าเสี่ยง สู้ต่อคำถามที่จะต้องให้มีคำตอบ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจเราจะต้องเรียนรู้เพื่อล้มเหลว และอย่าท้อกับความผิดพลาดที่จะเกิดจากความคิด
ความคิดสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ กำรงขันความคิด หรือทัศนคติผิด ๆ ที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ได้ทุกทำลายไป จากการสำรวจสถานะทางการคิดสร้างสรรค์ในบทที่ผ่านมา องค์ประกอบสำคัญที่ควรพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการคิดสร้างสรรค์คือ การพัฒนาทัศนคติและนิสัยนักคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเหมือนการเตรียมตัวให้พร้อมที่จะคิดสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชำนาญในอนาคต

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การทำภาพฉีก(รัฐพงษ์ แก้วเตือนจิตร-เต้)

1.เปิดรูปเราขึ้นมา
2.ใช้เครื่องมือ Lasso Tool ตัดรูปให้ขาด
3.สร้างไฟล์ใหม่ให้เหมาะสมรูปที่จะวาง เป็น Layer 1
4.ลากภาพที่ตัดส่วนที่ 1 มาวางที่ Layer1
5.ตัดรูปส่วนที่ 2มาไว้ที่ Layer 2
6.จัดภาพให้เข้ากัน เทสีพื้นหลังตามความเหมาะสมของภาพ

การสร้างรูปก้อนเมฆ (สุภาวดี เก้งทนท์-แหม่ม)

1.เข้า File/New ตั้งกระดาษเปล่า
2.เปลี่ยนสี Color Box สีฟ้า
3.เข้าแถบเครื่องมือการเทสี เลือก Gradient Tool G คลิกแถบเครื่องมือตัวอย่างสี เลือก Reset Gradients OK
4.ลากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งตามที่เราต้องการ
5.เปลี่ยน Background ให้เป็น Layer 0
6.สร้าง Layer 1 ขึ้นมา
7.เปลี่ยนสี Color Box เปลี่ยนสีดำ,ขาว
8.เข้า Filter/Render เลือก Clouds
9.เข้า Filter/Render เลือก Difference Clouds
10.กด Ctrl+F
11.กด Ctrl+ L เปลี่ยน ช่องแรก 30,1.00,100 กด OK
12.คลิกขวา Layer 1 เลือก Duplicate Layer กด OK
13.เข้า Filter/Stylize เลือก Extrude ตั้งค่าช่องแรก 2,30 คลิก Level-based กด OK
14.เปลี่ยน Normal เป็น Screen ทั้ง 2 Layer
15.เข้า Filter/Blur เลือก Gaussian Blur ตั้งเป็น 1.9 กด OK
16.เข้าแถบเครื่องมือด้านซ้ายตัวที่ 8 พู่กัน คลิกขวาเลือก Eraser Tool E คลิกแถบเครื่องมือด้านบนช่อง 2 เปลี่ยนเป็น 9 pixel และเปลี่ยน Flow 10% แล้วคลิกตรงขอบก้อนเมฆ
17.เข้า Filter/Blur เลือก Gaussian Blur ตั้งเป็น 7 กด OK
18.แล้วเราก็ลากรูปมาใส่ เปลี่ยน Normal เป็น Screen

การทำหัว Blog (สยาม ศรีโสภา-แจ็ค)

1.เข้า File/New เลือก Custom เปลี่ยนช่อง Height 250 Resolution 300
2.ปรับสี Background ไล่ระดับสี
3.คลิก เลือก Gradient Tool
4.ลากตรงกรอบสี่เหลี่ยมด้านไหนก็ได้
5.จากนั้นก็เลือกรูปแล้วลากมาใส่กรอบที่เราทำไว้
6.คลิกตรง ด้านล่าง
7.ไปเลือกที่ Gradient Tool เพื่อเลือกภาพสุดท้าย
8.ไปเลือกที่ Gradient Tool คลิกซ้าย 1 ครั้ง แล้วคลิกตรงที่ใหม่แช่ไว้แล้วลากให้เป็นเส้นโค้งแล้วปล่อย กด Alt ค้างไว้ คลิกที่จุดดำแล้วอีกหนึ่งเส้นมันจะหายไป แล้วกลับมาคลิกที่จุดเริ่มต้นมันจะมาประกบกัน แล้วกด Ctrl + Enter มันจะมีเส้นปะขึ้นมา
9.สร้าง Layer ใหม่แล้วเลือกลงสี Gradient Tool แล้วกด Ctrl + D เส้นปะก็จะหายไป ถ้าเราอยากจะได้หลายๆ เส้นเราก็ไปกด Alt ค้างไว้แล้วก็ลากไปที่ที่เราต้องการ

การทำภาพ Lomo ( ธนะชัย สว่างกุล-เพียว)

1.เลือกภาพที่ต้องการ ควรเป็นภาพธรรมชาติ
2.สร้าง Background ขึ้นมาอีกหนึ่ง โดยคลิกขวาที่ Background คลิกที่ Dvplicate Layer
3.เปลี่ยนจาก Nomal- Soft Light
4.สร้าง layer- feather-30px-Rectargvlar Marquee Tool
5.ลากใส่รูปให้เป็นคล้ายกรอบรูป
5.คลิกขวา Select Inverse ใช้เครื่องมือ Paint Bucket Tool เพื่อเติมสีเลือกเป็นสีดำ-ขาว
6.จากนั้นกด ctrl+J เพื่อ copy layer เปลี่ยน Nomal ให้เป็น Overley ทั้งสอง
7.สร้าง layer ขึ้นมาอีกไปที่เครื่องมือ Gradient tool เป็นสีให้เป็นสีขาวหมด
8.แล้วลากเพื่อทำเป็นคล้ายๆแสงสว่าง แล้วเลื่อน layer นั้นมาใส่ระหว่างกลางของสอง layer ก่อนหน้า

การตัดต่อรูปหน้า(จาตุรน เม่นหวา-พี่นัท)

1.เลือกรูปที่จะมาตัดต่อ(รูปที่คล้าย ๆกันจะทำได้ง่าย
2.ตัดใบหน้ารูปเราไปใส่อีกรูปหนึ่งด้วยเครื่องมือ Magndic Lasso Tool แล้วนำไปไว้ Layer ที่สร้างไว้
3.แต่งภาพให้เนียนด้วยเครื่องมือ Eraser tool ลบส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกและจัดใบหน้าให้เช้ากัน
4.ใช้เครื่องมือ Blur Tool ที่คล้ายรูปหยอดน้ำเกลี่ยผิวภาพ
5.ปรับความสว่างโดย Image-Adjustment-Brihtnessl Contrast
6.ปรับความคมชัด Image-Adjustment-Color Balance ปรับภาพให้กลมกลืนกัน
7.ถ้าต้องการดูดสีของสีผิวไปใส่ใบหน้า หรือสีของใบหน้าให้เหมือนกับสีผิวโดยการใช้เครื่องมือ Color Replacement Tool แล้วกด Alt แช่ไว้แล้วดูดสี
8.ถ้าต้องการให้หน้าสว่างขึ้นใช้เครื่องมือ Dodge Tool
9.ถ้าต้องการให้ภาพคมเข้มใช้เครื่องมือ Burn Tool
10.ปรับแต่งภาพให้เข้ากันแล้ว Save

การทำจิ๊กซอล(น้ำฝน โตกลาง-ฝน)

1.เปิดรูปตัวเองขึ้นมา
2.คลิก Windows-Style
3.คลิก Puzzle ปรับ Opacity:50%
4.ดั้บเบิ้ลคลิก Layer 1-Layer Style คลิกที่ Texture ปรับ Scall:100%

การตัดภาพพื้นหลัง(สุจิวรรณ ชูเดช-ปู)

1.เลือกภาพทที่ต้องการจะตกแต่ง
2.คลิก magnetic lasso tool เพื่อทำการตัดภาพ
3.เมื่อตัดภาพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปที่เครืองมือ Edit-Fill-จะขึ้นกล่องตั้งค่า แล้วก็ ok
4.เปลี่ยน Use:Content Aware
5.จะปรากฏภาพที่เราตัดเสร็จโดยภาพจะสมบูรณ์เหมือนเดิม

การทำภาพรุ้งกินน้ำ(สุนิศา ผลมาตย์-อ้อม)

1.เลือกภาพที่ต้องการ
2.เลือก Gradient Tool- Radial Gradient Tool-Click open to Gradient pixker-Special Effect จะมีภาพรุ้งกินน้ำแล้วคลิดตกลง
3.สร้าง Layer ใหม่ แล้วไปที่ Gradient Tool ลากเส้นตรงจากล่างไปบน ปรับตามความต้องการ
4.ไปที่ Add Layer mash ปรับกล่องสีให้เป็นดำ-ขาว ไปที่ Brush Tool-Brush preset pixker
ปรับขนาดแปรงเป็น 250 ปรับ Opacity=100% Flow=100%
5.คลิกที่ภาพส่วนที่ต้องการให้รุ้งจางลง จากนั้นไปที่ Layer 1-Opacity 20%

การทำภาพซ้อน(นฤมล สีหาบัตร-แนน)

1.เลือกรูปที่ต้องการจะทำการซ้อน 2 ภาพ
2.ลากรูปที่ 2 มาซ้อนที่ Backgroud เดียวกัน
3.จากนั้นไปที่ Layer-Layer Mask-Reveal All
4.แล้วไปที่เครื่องมือ Gradient Tool เลือกสีขาวดำ
5.แล้วลากเพื่อจะให้ภาพได้ซ้อนกันตามต้องการ

การทำภาพเบลอ (ศุภรักษ์ เสร็จกิจ -โอม)


1.เปิดไฟล์ภาพ กดCtrl+Jเพื่อก๊อปLayer
2.คลิก Filter-Blur-Gaussian Blur
3.ปรับระดับภาพเบลอตามต้องการ
4.จะกดที่Add Vector Mask จะเห็นได้ว่าจะมีLayerซ้อนขึ้นมา
5.จากนั้นใช้เครื่องมือBrush Tool
6.ทำการสลับสีโดยกดxให้สีดำอยู่ด้านบน
7.ทำการBrushตรงที่เราไม่ต้องการเบลอ

การทำรูปวาดสีน้ำ(วิชุดา จันทร์แจ่มมงคล-อาร์มมี่)

1.เปิดรูดขึ้น
2.คลิก Filter-Artistic-Watercolor เลือกภาพสีน้ำ OK
3.คลิก Filter-texture-Texterizer-ปรับ Relief

การทำภาพสเก็ต (สุนิศา กิหมื่นไวย์-เอ๋)

1.เปิดภาพ และ คลิกเปลี่ยน Background-Later 0สร้าง Layerเพิ่ม
2.กด Shift+Ctrl+U
3.Copy Layer กด Ctrl+I
4.คลิกที่ Layer ที่ 2 เพื่อเปลี่ยน Normol-Color Dodge
5.คลิก Filter-Blur-Gaussian Blur...

การทำภาพ 3D (เปียทิพย์ โพธิ์ศรี-เจียว)

1.เปิดรูปที่จะทำภาพ
2.ใช้เครื่องมือ Magnatic Lasso Tool ตัดรูป
3.สร้างไฟล์ที่ Width:400,Height:300,Resolution:300 pixels
4.เลือกสี และเทสีที่ต้องการ
5.คลิก Filter-Render-Clouds
6.คลิก Filter-Stylize-Extrude-size:8,Depth:100 และคลิกที่ Solid Front Faces
7.ลากรูปที่ตัดมาลงที่หน้าภาพ 3D และลบส่วนเกินออก
8.และคลิก Background-Layer 0

การทำภาพไฮไลน์สีผม(วิยะดา วัชรรัตนากุล-เบ็ญ)

1.เลือกรูปภาพของเรา
2.สร้าง Layer ใหม่
3.ใช้เครื่องมือ Polygonal Lasso Tool วาดภาพส่วนที่จะไฮไลน์
4.เทสีลงภาพที่วาดไว้ และกด Ctrl+d
5.คลิกที่ Filter-Blur-Gaussian Blur...
6.ปรับสีให้เหมือนสีไฮไลน์ของผม

การทำถาพสายฟ้า (ศุภฤกษ์ พยุงสุวรรณ-เอ็ม)

1.ตั้งค่าหน้ากระดาษ-Imternational Paper หรือ A4
2.ปรับภาพสีที่ Color Box ป๋นภาพ ขาว-ดำ
3.เทสีด้วย Gradient Tool โดยคลิกลาก ซ้ายไปขวา
4.คลิก Filter-Render-Difference Clouds จะได้ภาพเหมือนหมอก
5.คลิก Ctrl+I จะเป้นรูปสายฟ้า
6.คลิกเปลี่ยนจาก Background-Lauer 0
7.คลิกเปลี่ยน Notmol-Screen
8.เปิดรูปที่เราต้องการ
9.คลิก Ctrl+L เพื่อปรับค่า โดยเปลี่ยน 208,0.40 ตกลง
10.คลิกลากภาพสายฟ้าไปที่รูปที่เปิดไว้
11.คลิก Ctrl+U เพื่อปรับสีสายฟ้า

การทำรปภาพเป็นภาพวาด(กฤชญา จันทโรบล-กิ๊ก)

1.เปิดรูปภาพของตัวเอง
2.คลิก Ctrl+J เพื่อคัดลอก Layer
3.คลิก-Filter-Stylize-Find Edge
4.ปรับภาพโดย Opacity ให้เหมาะสม
5.คลิก Filter-Blur-Gaussian Blur...และปรับภาพตามที่เหมือนภาพวาด

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การสร้าง Photoshop CS5

1.เปิดไฟล์ PhotoshopCs5


2.คลิก File-Open เพื่อเปิดรุปที่เราต้องการตกแต่ง(สร้าง Layer ทุกครั้ง

3.ดับเบิ้ลคลิกที่ ไฟล์ Layer-Background-เพื่อตั้งเปิด Layer 0


4.ใช้เครื่องมือ Magic Wand Tool คลิกไปที่พื้นที่ว่างเพื่อตัดรูป

5.เปิดรูปขึ้นเพื่อแต่งภาพ ใช้ Horizontol type tool เพื่อพิมพ์ข้อความ.bp.blogspot.com/_dx7RlbUTkDw/TBdj5U9LgoI/AAAAAAAAAFY/p_utKk-MSXE/s1600/cs56.bmp">
6.ใช้ เครื่องมือ Brush Tool ตกแต่งภาพอีกครั้ง

7.บันทึกภาพโดยใช้ PSB เพื่อแก้ไขงานอีกครั้ง และใช้ JPec เพื่อ Save งาน

8.รูปสำเร็จ







วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร


Hajime ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ ใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารแทนคน
ร้านอาหารญี่ปุ่นในบ้านเรา นับวันก็ยิ่งมีความหลากหลาย แต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นที่ไม่ซ้ำกัน Hajime นับเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ ที่มีแนวคิดแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร จุดเด่นของร้าน คือ หุ่นยนต์อัจฉริยะ ซึ่งผลิตในประเทศญี่ปุ่น และได้รับการพัฒนาระบบโดยคนไทย นับเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ร้านอาหารครั้งแรกในเมืองไทย ที่ใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารแทนคน
เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้จะเดินอยู่ตรงกลางร้าน เดินไป เดินมา เพื่อเสิร์ฟอาหาร และเต้นโชว์เป็นระยะๆ สร้างความสนุกสานให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะน้องๆ หนูๆ ที่มาทานอาหารกับครอบครัว จะจ้องมองขณะหุ่นยนต์เต้นอย่างไม่วางตา
หุ่นยนต์ที่ร้าน Hajime แต่งกายในชุดเกราะนักรบซามูไรโบราณ มีทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งเป็นแบบ 1 แขน 2 ตัว และแบบ 2 แขน 2 ตัว ความสามารถของเจ้าหุ่นยนต์ก็คือ เสิร์ฟอาหาร เต้นรำตามจังหวะเพลง และสามารถแสดงอารมณ์ได้ นอกจากนี้เมื่อลูกค้าทานอาหารหมด และนำจานไปวางในถาดที่เตรียมไว้ เจ้าหุ่นยนต์ก็จะหยิบถาดอาหารที่ใช้แล้วไปวางไว้บนสายพานลำเลียง และระบบสายพานตัวนี้ จะทำหน้าที่นำถาดไปสู่ห้องล้างจานโดยอัตโนมัติ
การสั่งอาหารที่ร้าน Hajime อันดับแรก เมื่อคุณเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารแล้ว จะสามารถสั่งอาหารผ่านทางหน้าจอ Touch Screen ซึ่งถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและมีให้เลือก 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย และเมื่อคุณสั่งอาหารเสร็จและกดป้อนคำสั่งเข้าสู่ระบบเรียบร้อย ข้อมูลรายการอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ที่คุณเลือกจะถูกส่งไปยัง Server หลักที่อยู่ภายในร้านอาหาร เพื่อทำการกระจายข้อมูลต่อไปยังส่วนต่างๆ ของร้านอาหารเช่น ส่งไปยังหุ่นยนต์เพื่อหยิบอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะของคุณและยังสามารถตรวจสอบราคาและเช็คบิลจากหน้าจอนี้ได้เลย

คุณวุฒิภูมิ จุฬางกูร เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลระบบควบคุมหุ่นยนต์ นอกจากจะมาเล่าเรื่องราวต่างๆ รวมถึงที่มาของ
ร้าน Hajime แล้ว ยังแนะนำเมนูเด่นของร้านอย่าง เนื้อวากิว
และยังมีบุฟเฟ่ต์ ชาบู ข้าวปั้น และบาร์บีคิวให้คุณได้เลือกทาน มากมาย ส่วนรสชาติจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องไปลองด้วยตัวคุณเอง
นอกจากนี้ทางร้านยังพิถีพิถันในการออกแบบตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศอบอุ่นด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น ผสมผสานกับความทันสมัย เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ โดยใช้งบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 450 ตารางเมตร บนชั้น 3 ของ “โมโนโพลี พาร์ค” คอมมูนิตี้มอลล์ แนวใหม่แห่งแรกในย่านพระราม 3 ฮาจิเมะ มีเมนูให้เลือกกว่า 100 รายการ และยังมีเนื้อพิเศษคือ โกเบ ซึ่งจะส่งตรงมาจากญี่ปุ่นเพื่อความสดใหม่สำหรับลูกค้าที่หลงใหลในเนื้อวัวโดยเฉพาะ นับเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่รอให้คุณได้ไปสัมผัส…
เวลาเปิด-ปิด: 11.00-22.30 น.
เบอร์ติดต่อร้าน : 0-2683-1670
อ่านข้อมูลร้านฮาจิเมะ โรบอร์ท เรสเตอร์รอง เพิ่มเติมได้ที่ : http://www.edtguide.com/HajimeRobot_495238

credit:http://talk.edtguide.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B0-%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-japan.html

วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แปลบทความ Website design and development

ความสำคัญของการออกแบบเว็บไซต์และการพัฒนา
เว็บไซต์เป็นเอกลักษณ์ออนไลน์ของ บริษัท หรือของบุคคลที่เกี่ยวข้องใน Internet Marketing งานที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์เป็นตัวแทนบริษัทชื่อ บริษัท ขายของดึงดูดผู้เข้าชมสร้างธุรกิจขึ้นนำส่งเสริมการขายของสินค้าและบริการของ บริษัท และในที่สุดช่วยให้ได้รับผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในยุคของเทคโนโลยีนี้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีการครอบงำสูงตลาดและเนื่องจากว่างง่ายและ affordability ของอินเทอร์เน็ตคนทำงานและหลังจากการทำกำไรมากที่ความสะดวกสบายของบ้านของตนเป็นบุคคลธุรกิจออนไลน์อย่างจริงจัง สิ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจของคุณ เพื่อเตรียมเว็บไซต์ที่ออกแบบดี ที่ดึงดูด ใช้งานง่าย ใช้งานสูง เนื้อหาดี เต็มไปด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ฟังก์ชันเพียงพอและสามารถรักษาผู้เข้าชมนานและทำให้พวกเขากลับมาอีกครั้ง
เรารู้ว่า Web คืออินเตอร์เฟซภาพและสิ่งที่คนดูในเว็บจะจัดการและตีความในความคิดและการรับรู้ของพวกเขา ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์และโปรแกรม คุณจะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ผลสี สัญญาณไฟ ผลภาพ ตำแหน่งและขนาดของเนื้อหาและการใช้เครื่องมือค้นหามิตรเทคโนโลยี
เพื่อให้ผู้คนต้องจำชื่อเว็บไซต์ของคุณแรกและค้นหาคุณแรกในเว็บ
เพื่อให้บรรลุทั้งหมดกลยุทธ์ดังกล่าวข้างต้น
สร้างเว็บไซต์ของคุณต้องสัมผัสมืออาชีพจากนักออกแบบเว็บไซต์คุณวุฒิและนักพัฒนาสามารถนำความรู้ที่ได้มาดีที่สุดและประสบการณ์ของตนเพื่อให้พอร์ทัลเหมาะสมที่สามารถเปลี่ยนผู้เข้าชมแต่ละเป็นผู้ซื้อที่มีศักยภาพ
ในความเป็นจริง มีสองประเภทของการออกแบบเว็บไซต์เช่นการออกแบบเว็บไซต์นิ่งและเคลื่อนไหวได้ คุณสามารถเลือกใช้คงเป็นออกแบบเว็บไซต์แบบไดนามิกก่อนที่จะขึ้นอยู่กับรหัส HTML ง่ายและหลังการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและซับซ้อนตามข้อมูลในฐานข้อมูล เว็บไซต์ Dynamic เป็นจริงขายวันนี้
เพราะนอกเหนือจากความงามและความหลากหลายของการบังคับใช้ มันให้ความสะดวกและรวดเร็วของข้อมูลด้วยตนเองการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้ดูแลเว็บไซต์โดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิค
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับการออกแบบอย่างดีและโปรแกรมเว็บไซต์เป็นเครื่องมือค้นหาการเพิ่มประสิทธิภาพคุณภาพ (SEO) บริการ SEO เป็นพื้นฐานของการค้นหาความสำเร็จการตลาดเครื่องยนต์
เพราะการเพิ่มประสิทธิภาพการเว็บไซต์เครื่องเทศ - up เว็บไซต์ที่มีคำหลักที่เกี่ยวข้อง
link เดียวอำนวยความสะดวก
เพิ่ม link นิยมและเว็บไซต์ที่อยู่ด้านบนหรือใกล้ด้านบนของหน้าผลการค้นหาเครื่องมือที่ช่วยในที่สุดในการดึงดูดผู้ซื้อและกระตุ้นอัตราการเข้าชมเว็บไซต์ หากคุณต้องการ excel สูงในธุรกิจออนไลน์ของคุณ
กลยุทธ์ดังกล่าวของการออกแบบเว็บไซต์และการพัฒนาจะต้องได้รับการจัดการดูแลที่ดี บริษัท ดังกล่าวมีจำนวนมากที่สามารถให้เว็บไซต์ศักยภาพการออกแบบและวิธีการพัฒนาในอัตราที่เหมาะสมคือ
ในขณะเดียวกัน dudes ผิดสัญญาในการนี้ยังมีมากมาย การออกแบบเว็บไซต์ที่เหมาะสมและพัฒนา
คุณสามารถคิดของการออกแบบเว็บไซต์ที่ บริษัท ต่างประเทศและการพัฒนากับการวิจัยอย่างละเอียดในพอร์ต

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553