http://supattraaew.blogspot.com

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เครื่องฉายสไลด์ Samsung MBP-100


เทคโนโลยีสมัยใหม่เกี่ยวกับเครื่องฉายสไลด์หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม เครื่องโปรเจ้คเตอร์ ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ มาในรุ่น Samsung MBP-100 รุ่นนี้มีรูปร่างเหมือนกล่องบุหรี่ เล็กกระทัดรัดสามารถพกพาไปได้ทุกที่ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์มือถือ กล้องถ่ายรูป ได้อีกด้วย ทำให้เรานำภาพหรือวีดีโอ จากอุปกรณ์เหล่านี้มาแสดงโดยเครื่องฉายสไลด์ Samsung MBP-100 ได้เลยทันที

โดยทางบริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิก วางแผนไว้ว่าจะวางขาย Samsung MBP-100 ในเกาหลีประมาณ เดือนมีนาคมนี้ สำหรับบ้านเรา คงต้องรอ Samsung MBP-100 อีกสักพัก

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วิธีการลง Windows XP Professional


1.ใส่แผ่น CD + Restart เครื่อง แล้วกด F10
2.Boot>เลือก Boot Device Priority แล้วกด Enter> เลือก 1St Boot Device [CD-ROM Group]
3.กด F10,YES,ENTER
4.กด Esc ถ้าอยู่ในไดร์ D กด L
5.เลือกไดร์ C>ENTER กด C
6.เลือก [Quick] ENTER กด F
7.หน้าจอจะแสดง Windows xp Professional Setup ตั้งชื่อ IT_12
8.ลบ Password>ENTER
9.หน้าจอแสดง Welcome to Microsoft Windowsกด Next
10.หน้าจอแสดง Help proect your PC ตลิก Not right now กด Next
11.หน้าจอแสดง Who will use this computer ตั้งชื่อ Your name IT_12 กด Next
12.กด Finish
การติดตั้ง Windows ยังไม่เสร็จเท่านี้นะ มีต่อ
13.คลิกขวาเลือก Properties
14.ขึ้นหน้าจอ Display Properties เลือก Desktop
15.ขึ้นหน้าจอ Display Properties เลือก Customize Desktop
16.ขึ้นหน้าจอ Desktop ltems ให้เราคลิก My Documents ,My Network ,My Computer แล้วกด OK
17.ขึ้นหน้าจอ Display Properties ให้กด OK
18.คลิกขวาเลือก Properties
19.ขึ้นหน้าจอ Display Properties เลือก Settings
20.คลิกขวาเลือก Display Properties ปรับให้เป็น 1,024 แล้วกด OK และกด Yes

สรุป การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking)


สรุปการคิดเชิงสร้างสรรค์
สร้างสรรค์ ให้ความหมายถึงความคิดแง่บวกคือการพูดแง่บวก โดยที่ไม่มีในที่เกี่ยวข้องกลับความแตกต่าง หรือแปลกใหม่ ทั้งนี้ความคิดแง่บวกเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับลักษณะนิสัยมากกว่าวิธีคิด ตรงข้ามกับความคิดแง่ลบ ซึ่งหมายถึงความคิดที่ไม่ดีงาม คิดไม่ดีกับผู้อื่นหรือตนเอง คิดบั่นทอนกำลังใจ
สร้างสรรค์ ให้ความหมายถึงการกระทำที่ไม่ทำร้ายใคร ใช้ในการคิดที่ไม่ทำร้ายใคร การคิดและการกระทำในเชิงบวก มุ่งหมายเสริมสร้างให้ดีขึ้น ตรงข้ามกับความคิดและการกระทำในเชิงลบที่มุ่งทำลาย เป็นลักษณะการเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และสารมารถเอาไปใช้ได้
ความคิดนั้นที่จะสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้ 2 ทาง
1. เริ่มจากจินตนาการ แล้วย้อนกลับสู่สภาพความเป็นจริง คือการคิดจินตนาการจากความฝัน ทำให้เป็นความจริงขึ้นมา
2.เริ่มจากความรู้แล้วคิดต่อยอดสู่สิ่งใหม่ คือการนำความรู้ที่มีอยู่แล้ว โดยเราไม่ได้คิดขึ้นมาเองนำมาทำให้เป็นสิ่งใหม่ๆ
ความคิดสร้างสรรค์ลักษณะนี้เกิดจากการนำเอาข้อมูลหรือความรู้ที่มีอยู่มาคิดต่อยอดหรือคิดเพิ่ม ฐานข้อมูลที่มีอยู่จะเป็นเหมือน ”ตัวเขี่ยความคิด” ให้เราคิดในเรื่องใหม่ ๆ
การคิดเชิงสร้างสรรค์ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม หมายถึง การขยายขอบเขตความคิดออกไปจากกรอบความคิดเดิมที่มีอยู่ สู่ความคิดใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อค้นหาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น
ลำดับขั้นของการคิดเชิงสร้างสรรค์
การคิดเชิงสร้างสรรค์ มักประกอบไปด้วยขั้นตอนสำคัญ ดังนี้
- คิดอย่างมีเป้าหมาย ที่จะทำให้เราไปสู่ความสำเร็จ
- แสวงหาแนวคิดใหม่ๆ ที่จะแตกต่างเพื่อให้เป้าหมายที่เราคิดสำเร็จ
- ประเมินและคัดเลือกแนวคิดที่เราคิดได้มากลั่นกรอง สมเหตุสมผลตามความต้องการของเป้าหมาย
ทัศนคติของนักคิดสร้างสรรค์
เราต้องทำลายกรอบแห่งความคิด ทัศนคติที่ผิดๆ ให้คิดในแง่ที่ดีดี อย่าคิดในแง่ร้าย หยุดที่จะกลัวในความคิดในสิ่งที่จะลองทำ คิดตามใจตนเองอย่าดึงเพื่อนมาคิด เปิดรับประสบการณ์ หาความรู้ไม่ปิดโอกาสของตนเอง อย่ารักสบาย ต้องอดทนบากบั่น ทำให้สำเร็จ ไม่กลัวที่จะคิดต้องกล้าเสี่ยง สู้ต่อคำถามที่จะต้องให้มีคำตอบ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจเราจะต้องเรียนรู้เพื่อล้มเหลว และอย่าท้อกับความผิดพลาดที่จะเกิดจากความคิด
ความคิดสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ กำรงขันความคิด หรือทัศนคติผิด ๆ ที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ได้ทุกทำลายไป จากการสำรวจสถานะทางการคิดสร้างสรรค์ในบทที่ผ่านมา องค์ประกอบสำคัญที่ควรพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการคิดสร้างสรรค์คือ การพัฒนาทัศนคติและนิสัยนักคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเหมือนการเตรียมตัวให้พร้อมที่จะคิดสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชำนาญในอนาคต

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การทำภาพฉีก(รัฐพงษ์ แก้วเตือนจิตร-เต้)

1.เปิดรูปเราขึ้นมา
2.ใช้เครื่องมือ Lasso Tool ตัดรูปให้ขาด
3.สร้างไฟล์ใหม่ให้เหมาะสมรูปที่จะวาง เป็น Layer 1
4.ลากภาพที่ตัดส่วนที่ 1 มาวางที่ Layer1
5.ตัดรูปส่วนที่ 2มาไว้ที่ Layer 2
6.จัดภาพให้เข้ากัน เทสีพื้นหลังตามความเหมาะสมของภาพ

การสร้างรูปก้อนเมฆ (สุภาวดี เก้งทนท์-แหม่ม)

1.เข้า File/New ตั้งกระดาษเปล่า
2.เปลี่ยนสี Color Box สีฟ้า
3.เข้าแถบเครื่องมือการเทสี เลือก Gradient Tool G คลิกแถบเครื่องมือตัวอย่างสี เลือก Reset Gradients OK
4.ลากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งตามที่เราต้องการ
5.เปลี่ยน Background ให้เป็น Layer 0
6.สร้าง Layer 1 ขึ้นมา
7.เปลี่ยนสี Color Box เปลี่ยนสีดำ,ขาว
8.เข้า Filter/Render เลือก Clouds
9.เข้า Filter/Render เลือก Difference Clouds
10.กด Ctrl+F
11.กด Ctrl+ L เปลี่ยน ช่องแรก 30,1.00,100 กด OK
12.คลิกขวา Layer 1 เลือก Duplicate Layer กด OK
13.เข้า Filter/Stylize เลือก Extrude ตั้งค่าช่องแรก 2,30 คลิก Level-based กด OK
14.เปลี่ยน Normal เป็น Screen ทั้ง 2 Layer
15.เข้า Filter/Blur เลือก Gaussian Blur ตั้งเป็น 1.9 กด OK
16.เข้าแถบเครื่องมือด้านซ้ายตัวที่ 8 พู่กัน คลิกขวาเลือก Eraser Tool E คลิกแถบเครื่องมือด้านบนช่อง 2 เปลี่ยนเป็น 9 pixel และเปลี่ยน Flow 10% แล้วคลิกตรงขอบก้อนเมฆ
17.เข้า Filter/Blur เลือก Gaussian Blur ตั้งเป็น 7 กด OK
18.แล้วเราก็ลากรูปมาใส่ เปลี่ยน Normal เป็น Screen

การทำหัว Blog (สยาม ศรีโสภา-แจ็ค)

1.เข้า File/New เลือก Custom เปลี่ยนช่อง Height 250 Resolution 300
2.ปรับสี Background ไล่ระดับสี
3.คลิก เลือก Gradient Tool
4.ลากตรงกรอบสี่เหลี่ยมด้านไหนก็ได้
5.จากนั้นก็เลือกรูปแล้วลากมาใส่กรอบที่เราทำไว้
6.คลิกตรง ด้านล่าง
7.ไปเลือกที่ Gradient Tool เพื่อเลือกภาพสุดท้าย
8.ไปเลือกที่ Gradient Tool คลิกซ้าย 1 ครั้ง แล้วคลิกตรงที่ใหม่แช่ไว้แล้วลากให้เป็นเส้นโค้งแล้วปล่อย กด Alt ค้างไว้ คลิกที่จุดดำแล้วอีกหนึ่งเส้นมันจะหายไป แล้วกลับมาคลิกที่จุดเริ่มต้นมันจะมาประกบกัน แล้วกด Ctrl + Enter มันจะมีเส้นปะขึ้นมา
9.สร้าง Layer ใหม่แล้วเลือกลงสี Gradient Tool แล้วกด Ctrl + D เส้นปะก็จะหายไป ถ้าเราอยากจะได้หลายๆ เส้นเราก็ไปกด Alt ค้างไว้แล้วก็ลากไปที่ที่เราต้องการ

การทำภาพ Lomo ( ธนะชัย สว่างกุล-เพียว)

1.เลือกภาพที่ต้องการ ควรเป็นภาพธรรมชาติ
2.สร้าง Background ขึ้นมาอีกหนึ่ง โดยคลิกขวาที่ Background คลิกที่ Dvplicate Layer
3.เปลี่ยนจาก Nomal- Soft Light
4.สร้าง layer- feather-30px-Rectargvlar Marquee Tool
5.ลากใส่รูปให้เป็นคล้ายกรอบรูป
5.คลิกขวา Select Inverse ใช้เครื่องมือ Paint Bucket Tool เพื่อเติมสีเลือกเป็นสีดำ-ขาว
6.จากนั้นกด ctrl+J เพื่อ copy layer เปลี่ยน Nomal ให้เป็น Overley ทั้งสอง
7.สร้าง layer ขึ้นมาอีกไปที่เครื่องมือ Gradient tool เป็นสีให้เป็นสีขาวหมด
8.แล้วลากเพื่อทำเป็นคล้ายๆแสงสว่าง แล้วเลื่อน layer นั้นมาใส่ระหว่างกลางของสอง layer ก่อนหน้า

การตัดต่อรูปหน้า(จาตุรน เม่นหวา-พี่นัท)

1.เลือกรูปที่จะมาตัดต่อ(รูปที่คล้าย ๆกันจะทำได้ง่าย
2.ตัดใบหน้ารูปเราไปใส่อีกรูปหนึ่งด้วยเครื่องมือ Magndic Lasso Tool แล้วนำไปไว้ Layer ที่สร้างไว้
3.แต่งภาพให้เนียนด้วยเครื่องมือ Eraser tool ลบส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกและจัดใบหน้าให้เช้ากัน
4.ใช้เครื่องมือ Blur Tool ที่คล้ายรูปหยอดน้ำเกลี่ยผิวภาพ
5.ปรับความสว่างโดย Image-Adjustment-Brihtnessl Contrast
6.ปรับความคมชัด Image-Adjustment-Color Balance ปรับภาพให้กลมกลืนกัน
7.ถ้าต้องการดูดสีของสีผิวไปใส่ใบหน้า หรือสีของใบหน้าให้เหมือนกับสีผิวโดยการใช้เครื่องมือ Color Replacement Tool แล้วกด Alt แช่ไว้แล้วดูดสี
8.ถ้าต้องการให้หน้าสว่างขึ้นใช้เครื่องมือ Dodge Tool
9.ถ้าต้องการให้ภาพคมเข้มใช้เครื่องมือ Burn Tool
10.ปรับแต่งภาพให้เข้ากันแล้ว Save

การทำจิ๊กซอล(น้ำฝน โตกลาง-ฝน)

1.เปิดรูปตัวเองขึ้นมา
2.คลิก Windows-Style
3.คลิก Puzzle ปรับ Opacity:50%
4.ดั้บเบิ้ลคลิก Layer 1-Layer Style คลิกที่ Texture ปรับ Scall:100%

การตัดภาพพื้นหลัง(สุจิวรรณ ชูเดช-ปู)

1.เลือกภาพทที่ต้องการจะตกแต่ง
2.คลิก magnetic lasso tool เพื่อทำการตัดภาพ
3.เมื่อตัดภาพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปที่เครืองมือ Edit-Fill-จะขึ้นกล่องตั้งค่า แล้วก็ ok
4.เปลี่ยน Use:Content Aware
5.จะปรากฏภาพที่เราตัดเสร็จโดยภาพจะสมบูรณ์เหมือนเดิม

การทำภาพรุ้งกินน้ำ(สุนิศา ผลมาตย์-อ้อม)

1.เลือกภาพที่ต้องการ
2.เลือก Gradient Tool- Radial Gradient Tool-Click open to Gradient pixker-Special Effect จะมีภาพรุ้งกินน้ำแล้วคลิดตกลง
3.สร้าง Layer ใหม่ แล้วไปที่ Gradient Tool ลากเส้นตรงจากล่างไปบน ปรับตามความต้องการ
4.ไปที่ Add Layer mash ปรับกล่องสีให้เป็นดำ-ขาว ไปที่ Brush Tool-Brush preset pixker
ปรับขนาดแปรงเป็น 250 ปรับ Opacity=100% Flow=100%
5.คลิกที่ภาพส่วนที่ต้องการให้รุ้งจางลง จากนั้นไปที่ Layer 1-Opacity 20%

การทำภาพซ้อน(นฤมล สีหาบัตร-แนน)

1.เลือกรูปที่ต้องการจะทำการซ้อน 2 ภาพ
2.ลากรูปที่ 2 มาซ้อนที่ Backgroud เดียวกัน
3.จากนั้นไปที่ Layer-Layer Mask-Reveal All
4.แล้วไปที่เครื่องมือ Gradient Tool เลือกสีขาวดำ
5.แล้วลากเพื่อจะให้ภาพได้ซ้อนกันตามต้องการ

การทำภาพเบลอ (ศุภรักษ์ เสร็จกิจ -โอม)


1.เปิดไฟล์ภาพ กดCtrl+Jเพื่อก๊อปLayer
2.คลิก Filter-Blur-Gaussian Blur
3.ปรับระดับภาพเบลอตามต้องการ
4.จะกดที่Add Vector Mask จะเห็นได้ว่าจะมีLayerซ้อนขึ้นมา
5.จากนั้นใช้เครื่องมือBrush Tool
6.ทำการสลับสีโดยกดxให้สีดำอยู่ด้านบน
7.ทำการBrushตรงที่เราไม่ต้องการเบลอ

การทำรูปวาดสีน้ำ(วิชุดา จันทร์แจ่มมงคล-อาร์มมี่)

1.เปิดรูดขึ้น
2.คลิก Filter-Artistic-Watercolor เลือกภาพสีน้ำ OK
3.คลิก Filter-texture-Texterizer-ปรับ Relief

การทำภาพสเก็ต (สุนิศา กิหมื่นไวย์-เอ๋)

1.เปิดภาพ และ คลิกเปลี่ยน Background-Later 0สร้าง Layerเพิ่ม
2.กด Shift+Ctrl+U
3.Copy Layer กด Ctrl+I
4.คลิกที่ Layer ที่ 2 เพื่อเปลี่ยน Normol-Color Dodge
5.คลิก Filter-Blur-Gaussian Blur...

การทำภาพ 3D (เปียทิพย์ โพธิ์ศรี-เจียว)

1.เปิดรูปที่จะทำภาพ
2.ใช้เครื่องมือ Magnatic Lasso Tool ตัดรูป
3.สร้างไฟล์ที่ Width:400,Height:300,Resolution:300 pixels
4.เลือกสี และเทสีที่ต้องการ
5.คลิก Filter-Render-Clouds
6.คลิก Filter-Stylize-Extrude-size:8,Depth:100 และคลิกที่ Solid Front Faces
7.ลากรูปที่ตัดมาลงที่หน้าภาพ 3D และลบส่วนเกินออก
8.และคลิก Background-Layer 0

การทำภาพไฮไลน์สีผม(วิยะดา วัชรรัตนากุล-เบ็ญ)

1.เลือกรูปภาพของเรา
2.สร้าง Layer ใหม่
3.ใช้เครื่องมือ Polygonal Lasso Tool วาดภาพส่วนที่จะไฮไลน์
4.เทสีลงภาพที่วาดไว้ และกด Ctrl+d
5.คลิกที่ Filter-Blur-Gaussian Blur...
6.ปรับสีให้เหมือนสีไฮไลน์ของผม

การทำถาพสายฟ้า (ศุภฤกษ์ พยุงสุวรรณ-เอ็ม)

1.ตั้งค่าหน้ากระดาษ-Imternational Paper หรือ A4
2.ปรับภาพสีที่ Color Box ป๋นภาพ ขาว-ดำ
3.เทสีด้วย Gradient Tool โดยคลิกลาก ซ้ายไปขวา
4.คลิก Filter-Render-Difference Clouds จะได้ภาพเหมือนหมอก
5.คลิก Ctrl+I จะเป้นรูปสายฟ้า
6.คลิกเปลี่ยนจาก Background-Lauer 0
7.คลิกเปลี่ยน Notmol-Screen
8.เปิดรูปที่เราต้องการ
9.คลิก Ctrl+L เพื่อปรับค่า โดยเปลี่ยน 208,0.40 ตกลง
10.คลิกลากภาพสายฟ้าไปที่รูปที่เปิดไว้
11.คลิก Ctrl+U เพื่อปรับสีสายฟ้า

การทำรปภาพเป็นภาพวาด(กฤชญา จันทโรบล-กิ๊ก)

1.เปิดรูปภาพของตัวเอง
2.คลิก Ctrl+J เพื่อคัดลอก Layer
3.คลิก-Filter-Stylize-Find Edge
4.ปรับภาพโดย Opacity ให้เหมาะสม
5.คลิก Filter-Blur-Gaussian Blur...และปรับภาพตามที่เหมือนภาพวาด

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การสร้าง Photoshop CS5

1.เปิดไฟล์ PhotoshopCs5


2.คลิก File-Open เพื่อเปิดรุปที่เราต้องการตกแต่ง(สร้าง Layer ทุกครั้ง

3.ดับเบิ้ลคลิกที่ ไฟล์ Layer-Background-เพื่อตั้งเปิด Layer 0


4.ใช้เครื่องมือ Magic Wand Tool คลิกไปที่พื้นที่ว่างเพื่อตัดรูป

5.เปิดรูปขึ้นเพื่อแต่งภาพ ใช้ Horizontol type tool เพื่อพิมพ์ข้อความ.bp.blogspot.com/_dx7RlbUTkDw/TBdj5U9LgoI/AAAAAAAAAFY/p_utKk-MSXE/s1600/cs56.bmp">
6.ใช้ เครื่องมือ Brush Tool ตกแต่งภาพอีกครั้ง

7.บันทึกภาพโดยใช้ PSB เพื่อแก้ไขงานอีกครั้ง และใช้ JPec เพื่อ Save งาน

8.รูปสำเร็จ







วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร


Hajime ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ ใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารแทนคน
ร้านอาหารญี่ปุ่นในบ้านเรา นับวันก็ยิ่งมีความหลากหลาย แต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นที่ไม่ซ้ำกัน Hajime นับเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ ที่มีแนวคิดแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร จุดเด่นของร้าน คือ หุ่นยนต์อัจฉริยะ ซึ่งผลิตในประเทศญี่ปุ่น และได้รับการพัฒนาระบบโดยคนไทย นับเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ร้านอาหารครั้งแรกในเมืองไทย ที่ใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารแทนคน
เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้จะเดินอยู่ตรงกลางร้าน เดินไป เดินมา เพื่อเสิร์ฟอาหาร และเต้นโชว์เป็นระยะๆ สร้างความสนุกสานให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะน้องๆ หนูๆ ที่มาทานอาหารกับครอบครัว จะจ้องมองขณะหุ่นยนต์เต้นอย่างไม่วางตา
หุ่นยนต์ที่ร้าน Hajime แต่งกายในชุดเกราะนักรบซามูไรโบราณ มีทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งเป็นแบบ 1 แขน 2 ตัว และแบบ 2 แขน 2 ตัว ความสามารถของเจ้าหุ่นยนต์ก็คือ เสิร์ฟอาหาร เต้นรำตามจังหวะเพลง และสามารถแสดงอารมณ์ได้ นอกจากนี้เมื่อลูกค้าทานอาหารหมด และนำจานไปวางในถาดที่เตรียมไว้ เจ้าหุ่นยนต์ก็จะหยิบถาดอาหารที่ใช้แล้วไปวางไว้บนสายพานลำเลียง และระบบสายพานตัวนี้ จะทำหน้าที่นำถาดไปสู่ห้องล้างจานโดยอัตโนมัติ
การสั่งอาหารที่ร้าน Hajime อันดับแรก เมื่อคุณเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารแล้ว จะสามารถสั่งอาหารผ่านทางหน้าจอ Touch Screen ซึ่งถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายและมีให้เลือก 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย และเมื่อคุณสั่งอาหารเสร็จและกดป้อนคำสั่งเข้าสู่ระบบเรียบร้อย ข้อมูลรายการอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ที่คุณเลือกจะถูกส่งไปยัง Server หลักที่อยู่ภายในร้านอาหาร เพื่อทำการกระจายข้อมูลต่อไปยังส่วนต่างๆ ของร้านอาหารเช่น ส่งไปยังหุ่นยนต์เพื่อหยิบอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะของคุณและยังสามารถตรวจสอบราคาและเช็คบิลจากหน้าจอนี้ได้เลย

คุณวุฒิภูมิ จุฬางกูร เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลระบบควบคุมหุ่นยนต์ นอกจากจะมาเล่าเรื่องราวต่างๆ รวมถึงที่มาของ
ร้าน Hajime แล้ว ยังแนะนำเมนูเด่นของร้านอย่าง เนื้อวากิว
และยังมีบุฟเฟ่ต์ ชาบู ข้าวปั้น และบาร์บีคิวให้คุณได้เลือกทาน มากมาย ส่วนรสชาติจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องไปลองด้วยตัวคุณเอง
นอกจากนี้ทางร้านยังพิถีพิถันในการออกแบบตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศอบอุ่นด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น ผสมผสานกับความทันสมัย เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ โดยใช้งบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 450 ตารางเมตร บนชั้น 3 ของ “โมโนโพลี พาร์ค” คอมมูนิตี้มอลล์ แนวใหม่แห่งแรกในย่านพระราม 3 ฮาจิเมะ มีเมนูให้เลือกกว่า 100 รายการ และยังมีเนื้อพิเศษคือ โกเบ ซึ่งจะส่งตรงมาจากญี่ปุ่นเพื่อความสดใหม่สำหรับลูกค้าที่หลงใหลในเนื้อวัวโดยเฉพาะ นับเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่รอให้คุณได้ไปสัมผัส…
เวลาเปิด-ปิด: 11.00-22.30 น.
เบอร์ติดต่อร้าน : 0-2683-1670
อ่านข้อมูลร้านฮาจิเมะ โรบอร์ท เรสเตอร์รอง เพิ่มเติมได้ที่ : http://www.edtguide.com/HajimeRobot_495238

credit:http://talk.edtguide.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B0-%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-japan.html

วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แปลบทความ Website design and development

ความสำคัญของการออกแบบเว็บไซต์และการพัฒนา
เว็บไซต์เป็นเอกลักษณ์ออนไลน์ของ บริษัท หรือของบุคคลที่เกี่ยวข้องใน Internet Marketing งานที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์เป็นตัวแทนบริษัทชื่อ บริษัท ขายของดึงดูดผู้เข้าชมสร้างธุรกิจขึ้นนำส่งเสริมการขายของสินค้าและบริการของ บริษัท และในที่สุดช่วยให้ได้รับผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในยุคของเทคโนโลยีนี้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีการครอบงำสูงตลาดและเนื่องจากว่างง่ายและ affordability ของอินเทอร์เน็ตคนทำงานและหลังจากการทำกำไรมากที่ความสะดวกสบายของบ้านของตนเป็นบุคคลธุรกิจออนไลน์อย่างจริงจัง สิ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจของคุณ เพื่อเตรียมเว็บไซต์ที่ออกแบบดี ที่ดึงดูด ใช้งานง่าย ใช้งานสูง เนื้อหาดี เต็มไปด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ฟังก์ชันเพียงพอและสามารถรักษาผู้เข้าชมนานและทำให้พวกเขากลับมาอีกครั้ง
เรารู้ว่า Web คืออินเตอร์เฟซภาพและสิ่งที่คนดูในเว็บจะจัดการและตีความในความคิดและการรับรู้ของพวกเขา ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์และโปรแกรม คุณจะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ผลสี สัญญาณไฟ ผลภาพ ตำแหน่งและขนาดของเนื้อหาและการใช้เครื่องมือค้นหามิตรเทคโนโลยี
เพื่อให้ผู้คนต้องจำชื่อเว็บไซต์ของคุณแรกและค้นหาคุณแรกในเว็บ
เพื่อให้บรรลุทั้งหมดกลยุทธ์ดังกล่าวข้างต้น
สร้างเว็บไซต์ของคุณต้องสัมผัสมืออาชีพจากนักออกแบบเว็บไซต์คุณวุฒิและนักพัฒนาสามารถนำความรู้ที่ได้มาดีที่สุดและประสบการณ์ของตนเพื่อให้พอร์ทัลเหมาะสมที่สามารถเปลี่ยนผู้เข้าชมแต่ละเป็นผู้ซื้อที่มีศักยภาพ
ในความเป็นจริง มีสองประเภทของการออกแบบเว็บไซต์เช่นการออกแบบเว็บไซต์นิ่งและเคลื่อนไหวได้ คุณสามารถเลือกใช้คงเป็นออกแบบเว็บไซต์แบบไดนามิกก่อนที่จะขึ้นอยู่กับรหัส HTML ง่ายและหลังการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและซับซ้อนตามข้อมูลในฐานข้อมูล เว็บไซต์ Dynamic เป็นจริงขายวันนี้
เพราะนอกเหนือจากความงามและความหลากหลายของการบังคับใช้ มันให้ความสะดวกและรวดเร็วของข้อมูลด้วยตนเองการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้ดูแลเว็บไซต์โดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิค
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับการออกแบบอย่างดีและโปรแกรมเว็บไซต์เป็นเครื่องมือค้นหาการเพิ่มประสิทธิภาพคุณภาพ (SEO) บริการ SEO เป็นพื้นฐานของการค้นหาความสำเร็จการตลาดเครื่องยนต์
เพราะการเพิ่มประสิทธิภาพการเว็บไซต์เครื่องเทศ - up เว็บไซต์ที่มีคำหลักที่เกี่ยวข้อง
link เดียวอำนวยความสะดวก
เพิ่ม link นิยมและเว็บไซต์ที่อยู่ด้านบนหรือใกล้ด้านบนของหน้าผลการค้นหาเครื่องมือที่ช่วยในที่สุดในการดึงดูดผู้ซื้อและกระตุ้นอัตราการเข้าชมเว็บไซต์ หากคุณต้องการ excel สูงในธุรกิจออนไลน์ของคุณ
กลยุทธ์ดังกล่าวของการออกแบบเว็บไซต์และการพัฒนาจะต้องได้รับการจัดการดูแลที่ดี บริษัท ดังกล่าวมีจำนวนมากที่สามารถให้เว็บไซต์ศักยภาพการออกแบบและวิธีการพัฒนาในอัตราที่เหมาะสมคือ
ในขณะเดียวกัน dudes ผิดสัญญาในการนี้ยังมีมากมาย การออกแบบเว็บไซต์ที่เหมาะสมและพัฒนา
คุณสามารถคิดของการออกแบบเว็บไซต์ที่ บริษัท ต่างประเทศและการพัฒนากับการวิจัยอย่างละเอียดในพอร์ต

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

คุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง กระบวนการต่างๆ และระบบงานที่ช่วยให้ได้สารสนเทศหรือข่าวสารที่ต้องการ โดยจะรวมถึง

1. เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน อุปกรณ์คมนาคมต่างๆ รวมทั้งซอฟต์แวร์ทั้งระบบสำเร็จรูปและพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะด้าน

2. กระบวนการในการนำอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ข้างต้นมาใช้งาน รวบรวมข้อมูล จัดเก็บประมวลผล และแสดงผลลัพธ์เป็นสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป



ในปัจจุบันการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกองค์กร การเชื่อมโยงสารสนเทศผ่านทางคอมพิวเตอร์ ทำให้สิ่งที่มีค่ามากที่สุดของระบบ คือ ข้อมูลและสารสนเทศ อาจถูกจารกรรม ถูกปรับเปลี่ยน ถูกเข้าถึงโดยเจ้าของไม่รู้ตัว ถูกปิดกั้นขัดขวางให้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ หรือถูกทำลายเสียหายไป ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ไม่ยากบนโลกของเครือข่าย โดยเฉพาะเมื่อยู่บนอินเทอร์เน็ต

ดังนั้นการมีคุณธรรม และจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน มีรายละเอียดดังนี้



1.ไม่ควรให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ

2.ไม่บิดเบือนความถูกต้องของข้อมูล ให้ผู้รับคนต่อไปได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

3.ไม่ควรเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต

4.ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลกับผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต

5.ไม่ทำลายข้อมูล

6.ไม่เข้าควบคุมระบบบางส่วน หรือทั้งหมดโดยไม่ได้รับอนุญาต

7.ไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเข้าใจว่าตัวเองเป็นอีกบุคคลหนึ่ง ตัวอย่างเช่น การปลอมอีเมล์ของผู้ส่งเพื่อให้ผู้รับเข้าใจผิด เพื่อการเข้าใจผิด หรือ ต้องการล้วงความลับ

8.การขัดขวางการให้บริการของเซิร์ฟเวอร์ โดยการทำให้มีการใช้ทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์จนหมด หรือถึงขีดจำกัดของมัน ตัวอย่างเช่น เว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือ อีเมล์เซิร์ฟเวอร์ การโจมตีจะทำโดยการเปิดการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์จนถึงขีดจำกัดของเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ผู้ใช้คนอื่นๆไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้

9.ไม่ปล่อย หรือ สร้างโปรแกรมประสงค์ร้าย (Malicious Program) ซึ่งเรียกย่อๆว่า (Malware) เป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำการ ก่อกวน ทำลาย หรือทำความเสียหายระบบคอมพิวเตอร์
เครือข่าย โปรแกรมประสงค์ร้ายที่แพร่หลายในปัจจุบันคือ ไวรัส เวิร์ม และม้าโทรจัน

10.ไม่ก่อความรำคาญให้กับผู้อื่น โดยวิธีการต่างๆ เช่น สแปม (Spam) (การส่งอีเมลไปยังผู้ใช้จำนวนมาก โดยมีจุดประสงค์เพื่อการโฆษณา)

11.ไม่ผลิตหรือใช้สปายแวร์ (Spyware) โดยสปายแวร์จะใช้ช่องทางการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ตเพื่อแอบส่งข้อมูลส่วนตัวของผู้นั้นไปให้กับบุคคลหรือองค์กรหนึ่งโดยที่ผู้ใช้ไม่ทราบ

12.ไม่สร้างหรือใช้ไวรัส

13.ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันติดตามมาจากการกระทำ

14.ไม่สร้างโปรแกรมที่ก่อกวนการทำงานของผู้อื่น

15.ไม่คัดลอกโปรแกรมผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์

เว็บเซอวิส คืออะไร?

เว็บเซอวิส คือ Web Application ยุคใหม่ ที่ประกอบด้วยส่วนย่อยๆมีความสมบูรณ์ในตัวเอง สามารถติดตั้ง ค้นหา เริ่มทำงานได้ผ่านเว็บ Web Service สามารถทำอะไรก็ได้ตั้งแต่งานง่ายๆ เช่นดึงข้อมูล จนถึงกระบวนการทางธุรกิจที่ซับซ้อน เมื่อ Web Service ตัวใดตัวหนึ่งเริ่มทำงาน Web Service ตัวอื่นก็สามารถรับรู้และเริ่มทำงานได้อีกด้วย

หลายคนอาจจะถามว่าทำไมต้องเป็น Web เพราะเรามี Middle Ware อื่นๆมากมายเช่น RMI Jini CORBA DCOM ฯลฯ แม้ Middle Ware เหล่านี้จะสามารถรองรับได้ แต่ไม่มีตัวใดตัวหนึ่งที่เด่นจริง แต่ในเมื่อ Web มีจุดเด่นในเรื่องของการให้บริการข้อมูลที่สะดวก ใช้งานง่าย จึงกลายเป็นตัวประสาน Middle Ware ต่างๆ เข้าด้วยกันซึ่งจะให้คุยกันเองคงยากยิ่ง Web ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้ Middle Ware เหล่านี้สามารถคุยกันได้ และมีประสิทธิภาพกว่าวิธีการเดิมๆ มาก

หากเรามองจากกรณีของ n-tier application จะพบว่า web service คือกลไกในการเข้าถึงบริการที่แต่ละ Middle Ware ให้บริการ การเข้าถึงจะอาศัย Listener และส่วนประกอบที่ระบุถึงบริการต่างๆ ที่รองรับการทำงาน โดยการทำงานจริงๆ นั้นก็ใช้วิธีการปกติของ Middle Ware นั้นๆ

credit:http://www.thaixml.com/essentials/webs.htm

คือ Web Application ยุคใหม่ ที่ประกอบด้วยส่วนย่อย ๆ ที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง สามารถติดตั้ง ค้นหาและเริ่มทำงานได้ผ่านเว็บ Web Services เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ application ต่าง ๆ สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ถึงแม้ว่า application เหล่านั้นจะสร้างมาจากสถาปัตยกรรม ภาษาและฐานข้อมูลที่ต่างกัน โดยมีการทำงานอยู่บน Internet Protocol ทั้ง HTML,TCP/IP โดยใช้ภาษา XML เป็นภาษาที่ทำการเข้ารหัสและถอดหรัสข้อมูลที่ส่งผ่านกันระหว่างไคลเอนต์กับเซิร์ฟเวอร์ เมื่อ Web Services ตัวใดตัวหนึ่งเริ่มทำงาน Web Services ตัวอื่นก็สามารถรับรู้และเริ่มทำงานได้อีกด้วย โดยการที่สร้างฟังก์ชั่นตัวหนึ่งฝังไว้ในตัวเว็บแอพลิเคชั่นและเว็บเซิร์ฟเวอร์ของเรา เพื่อที่จะให้ไคลเอนต์ หรือเว็บไซต์อื่น ๆ ที่สามารถเรียกใช้ฟังก์ชันอันนี้ได้ด้วยคะ

credit:http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=40f6861eed5b92dc

เว็บเซอร์วิส (Web service) คือระบบซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมา เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านระบบเครือข่าย โดยที่ภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ คือเอกซ์เอ็มแอล เว็บเซอร์วิสมีอินเทอร์เฟส ที่ใช้อธิบายรูปแบบข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลผลได้ เช่น WSDL ระบบคอมพิวเตอร์ใช้งานสื่อสารโต้ตอบกับเว็บเซอร์วิสตามรูปแบบที่ได้กำหนดไว้แล้ว โดยการส่งสาสน์ตามอินเตอร์เฟสของเว็บเซอร์วิสนั้น โดยที่สาสน์ดังกล่าวอาจแนบไว้ในซอง SOAP หรือส่งตามอินเตอร์เฟสในแนวทางของ REST สาสน์เหล่านี้ปกติแล้วถูกส่งโดยอาศัย HTTP และใช้ XML ร่วมกับมาตรฐานเกี่ยวกับเว็บอื่นๆ โปรแกรมประยุกต์ที่เขียนโดยภาษาต่างๆ และทำงานบนแพลตฟอร์มต่างๆกันสามารถใช้เว็บเซอร์วิสเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น อินเทอร์เน็ต ในลักษณะเดียวกับการสื่อสารระหว่างโปรเซส (Inter-process communication) บนเครื่องเดียวกัน ความสามารถในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบที่ต่างกันนี้ (เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง โปรแกรมที่เขียนโดยภาษาจาวา และโปรแกรมที่เขียนโดยภาษาไพทอน หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างโปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานบนไมโครซอฟท์วินโดวส์และโปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานบนลินุกซ์) เกิดขึ้นได้เนื่องจากการใช้มาตรฐานเปิด โดย OASIS และ W3C เป็นคณะกรรมการหลักในการรับผิดชอบมาตรฐานและสถาปัตยกรรมของเว็บเซอร์วิส

credit:http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8

สรุป web servic คือ เว็บเซอร์วิสเป็นลักษณะในรูปแบบของการออกแบบโมเดลสื่อสาร ในลักษณะของการกระจาย,การติดต่อสื่อสารที่เป็นตัวกลาง โดยโพรโทคอลที่ใช้ในการสื่อสารคือ SOAP (Simple Object Access Protocol) เป็นโพรโทคอลในการติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเป็นโพรโทคอลการสื่อสารในระดับ Application Layer หรือในระดับ แอปพลิเคชันโดยอาศัยผ่านอินเทอร์เน็ตโพรโทคอล อย่างเช่น HTTP, SMTP โพรโทคอลพัฒนารากฐานมาจาก XML โดยมาตรฐานของ SOAP ปัจจุบันอยู่เวอร์ชัน 1.2 เอกสารสามารถดูได้ที่ W3C

website คืออะไร

เว็บไซต์ (อังกฤษ: website, web site, Web site) หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ หน้าแรกของเว็บไซต์ที่เก็บไว้ที่ชื่อหลักจะเรียกว่า โฮมเพจ เว็บไซต์โดยทั่วไปจะให้บริการต่อผู้ใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบางเว็บไซต์จำเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการเพื่อที่จะดูข้อมูล ในเว็บไซต์นั้น ซึ่งได้แก่ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ หรือข้อมูลสื่อต่างๆ ผู้ทำเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยมเรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ เว็บเบราว์เซอร์

เว็บไซต์แห่งแรกของโลกสร้างขึ้นเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2536 โดยวิศวกรของเซิร์น[1]

credit:http://www.modify.in.th/Website/website-id72.aspx

Website คืออะไร

เว็บไซด์ คือ ศูนย์รวบรวมความรู้และแหล่งข้อมูลต่างๆ อาทิ เช่น ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ บันเทิง กีฬา เป็นต้น ปัจจุบันเว็บไซด์ได้เข้ามามีบทบาทในแวดวงธุรกิจแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของบริษัท ร้านค้า ชั้นนำ ต่างๆทั่วไป เหตุผลหนึ่งในการมีเว็บไซด์นั้น เพื่อเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจนั้นๆ อีกทั้งเว็บไซด์ยังสามารถตอบสนองและครอบคลุมผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมาย ได้อย่างไม่มีขีดจำกัดอีกด้วย เพราะสามารถเข้าเยี่ยมชมข้อมูลเว็บไซด์จากอินเตอร์เน็ตได้ทั่วโลก
ขั้นตอนแรกในการขอเริ่มใช้บริการเว็บไซด์นั้น นักลงทุนจะต้องไปติดต่อกับตัวแทนจำหน่าย เพื่อขอจดทะเบียนชื่อเว็บไซด์ ( Domain name ) และพื้นที่ในจัดทำเว็บไซด์ ( hosting ) ก่อน โดยการจดทะเบียนขอใช้บริการเว็บไซด์นั้น จะมีสกุลดอทให้เลือกหลากหลายประเภท

จุดประสงค์หลักในการจัดสร้างเว็บไซด์นั้น

ส่วนใหญ่แล้วต้องการจัดทำขึ้นมาเพื่อพรีเซ็นต์ผลงานของตนเองหรือเพื่อเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่สาธารณะชน และอีกกลุ่มหนึ่งจัดทำเว็บไซด์ขึ้นมาเพื่อธุรกิจการค้าหรือเพื่อสร้างรายได้ โดยธุรกิจบนเว็บไซด์หลัก มีดังต่อไปนี้

Domain and Hosting provider ตัวแทนรับจดทะเบียนชื่อโดเมนเนมและจำหน่ายพื้นที่จัดทำเว็บไซด์ เป็นการเปิดให้บริการสำหรับผู้ที่สนใจต้องการอยากมีเว็บไซด์เป็นของตนเอง หรือบริษัท ห้างร้าน ต่างๆ

E-commerce หรือ ร้านค้าออนไลน์ เป็นการเปิดให้บริการสั่ง-ซื้อสินค้าผ่านทางหน้าเว็บไซด์ อาทิเช่น เสื้อผ้า น้ำหอม เครื่องประดับ เป็นต้น

Job ศูนย์ประกาศรับสมัครงาน เป็นการจัดระบบให้บริการสมัครงานออนไลน์ โดยผู้สมัครสามารถฝาก resume หรือประวัติส่วนตัวได้โดยการสมัครสมาชิก หรือสามารถค้นหาตำแหน่งงานว่างต่างๆได้ และสำหรับบริษัทต่างๆที่ต้องการประกาศรับสมัครพนักงานในตำแหน่งต่างๆ

Horoscope ดูดวง ในปัจจุบันถือว่าเป็นธุรกิจที่สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็วชนิดหนึ่ง หลักๆจะเป็นการทำนายในรูปแบบของการผูกดวง ไพ่ยิปซี เซียมซี ฮวงจุ้ย เป็นต้น

credit:http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=yingkidkid&date=28-02-2008&group=1&gblog=32




Web site หมายถึง
ข้อมูลทั้งหมดที่แสดงผ่านทาง Browser ซึ่งประกอบด้วย Home page
และ Web page ทั้งหมด Web site เหล่านี้ ผู้สร้างสามารถกำหนดให้ผู้ใช้หรือผู้เยี่ยมชม
สามารถสำเนาข้อมูล แฟ้มเอกสาร หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ไปใช้งานได้ หรือกำหนดให้ส่ง
E-mail ถึงเจ้าของหรือผู้ดูแลระบบได้ทันที

ดังนั้น วิธีการนิเทศในรูปแบบของการใช้ Web page สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในกรณีที่ต้องการเผยแพร
่เอกสารทางวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน
หรือนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ได้ E-mail กับการนิเทศ
ศึกษานิเทศก์ สามารถให้การนิเทศได้ทั้งทางตรง และ
ทางอ้อม การนิเทศทางอ้อมที่ประหยัด รวดเร็ว ไม่จำกัด
ช่วงเวลา ได้แก่การใช้ E-mail ในการติดต่อสื่อสาร ซี่ง
ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่จะประยุกต์นำไปใช้ เพราะ E-mail ไม่ได้หมายถึงเฉพาะเขียนจดหมายโต้ตอบกันเท่านั้น
แต่ยังสามารถที่จะส่งแฟ้มเอกสาร แฟ้มรูปภาพ และแฟ้ม
ข้อมูล ต่าง ๆ ได้อีกด้วย การใช้โปรแกรมที่ติดต่อกันแบบ
Real time เช่น โปรแกรม ICQ เราสามารถใช้โปรแกรม ICQ
ให้เป็นประโยชน์ต่อการนิเทศก์ ได้ในลักษณะเดียวกับ E-mail
ครู-อาจารย์ หรือนักเรียนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเรียนการสอน สามารถที่จะพูดคุยโต้ตอบกันได้ทันที และสามารถสื่อสารพร้อมกัน
ได้หลาย ๆ คน

credit:http://www.nitesonline.net/it/8.htm

สรุป เว็บไซต์ คือ หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ศูนย์รวบรวมความรู้และแหล่งข้อมูลต่างๆ อาทิ เช่น ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ บันเทิง กีฬา เป็นต้น ปัจจุบันเว็บไซด์ได้เข้ามามีบทบาทในแวดวงธุรกิจแทบทุกชนิด และคือข้อมูลทั้งหมดที่แสดงผ่านทาง Browser ซึ่งประกอบด้วย Home page
และ Web page

วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Importance of Website Design and Development


Importance of Website Design and Development
A website is an online identity of a company or of an individual involved in Internet Marketing. The task associated with the website is to represent a company
sell company’s name
attract more visitors
generate more business leads
promote more sale of company’s products and services and ultimately
help to gain more return on investment.

In this era of advanced technology
electronic commerce have highly dominated the marketing practice
and due to easy availability and affordability of the Internet
people are running after it and making huge profit at the comfort of their home.

As a serious online business person
what is important for your business is
to prepare a website that is well designed
attractive
easy to navigate
highly usable
good content
full of relevant information
enough functionalities and are capable of retaining visitors for long and make them come back again.

We know
Web is the visual interface and what people look on the Web will be manipulated and interpreted into their mind and perception. So being a website designer and programmer
you must be careful about the use of color effects
lights
visual effects
positioning and size of contents and use of search engine friendly technology
so that people must remember your website name first and search you first on the Web.

To achieve all the above mentioned strategies
your website building needs a professional touch from qualified website designers and developers who can put their best acquired knowledge and experience to make a suitable portal that can turn each visitors into potential buyers.

In fact
there are two types of website design such as; static and dynamic website design. You can opt for static as well as dynamic website design where former is based on simple HTML code and latter is developed with advanced and sophisticated technologies based on the information provided in the database. Dynamic website is actually selling these days
because apart from its beauty and diverse applicability
it gives the ease of quick and self information updating facility to site administrator without being proficient technically.

Another important factor for a well designed and programmed website is the quality search engine optimization (SEO) service. SEO is the basis of search engine marketing success
because website optimization process spice-up the website with relevant keywords
facilitate one-way link
enhance link-popularity and place website at top or near the top of search engine result page that ultimately help in attracting motivated buyers and more traffic to website.

If you want to excel high in your online business
aforesaid strategies of website design and development must be dealt with great care. There are numerous such companies which can give promising website designing and development solution at an affordable rate
at the same time
false promise making dudes are also in plenty. For affordable Website design and development
you can even think of any offshore website design and development company with thorough research on their portfolios