http://supattraaew.blogspot.com

วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

การจดทะเบียนพาณิชย์

                                                          การจดทะเบียนพาณิชย์


ขั้นตอนการจดทะเบียนพาณิชย์ (กิจการเจ้าของคนเดียว)
ขั้นตอนการจดทะเบียนพาณิชย์ (บุคคลธรรมดา)
               1. ผู้ประกอบการกรอกรายการตามแบบ ทพ. และยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่/นายทะเบียน
               2. เจ้าหน้าที่ / นายทะเบียนตรวจคำขอ และ  หลักฐานต่างๆ
               3. ผู้ประกอบการรับใบสำคัญทะเบียนพาณิชย์ และชำระค่าธรรมเนียม
 
1. กรณีจดทะเบียนพาณิชย์ (ตั้งใหม่)
               กรอกเอกสารคำขอ (แบบ ทพ.) ข้อ 1 – 6 และลงลายมือชื่อ พร้อมยื่นเอกสารที่ต้องใช้
ในการจดทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่
        - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
        - หนังสือมอบอำนาจ (กรณีผู้ประกอบการพาณิชย์  ไม่ได้มาจดทะเบียนด้วยตนเอง) ติดอากร
แสตมป์ 10 บาทพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้
รับมอบอำนาจ  อย่างละ 1 ฉบับ
         - สำเนาสัญญาเช่า หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่  (กรณีไม่ใช่บ้านของตนเอง) (ถ้ามี) พร้อม
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ให้ความยินยอมให้ใช้สถานที่  อย่างละ 1 ฉบับ
2. กรณีจดเปลี่ยนแปลงทะเบียนพาณิชย์
               กรอกเอกสารคำขอ (แบบ ทพ.) แล้วแต่กรณี และลงลายมือชื่อ พร้อมยื่นเอกสารที่ต้องใช้ใน
การจดทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่  
          - ใบสำคัญใบทะเบียนพาณิชย์ (ตัวจริง) หรือ
          - เอกสารการแจ้งความ (กรณีใบสำคัญใบทะเบียน -พาณิชย์สูญหาย)
          - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
          - หนังสือมอบอำนาจ (กรณีผู้ประกอบการพาณิชย์  ไม่ได้มาจดทะเบียนด้วยตนเอง) ติดอากร
แสตมป์ 10 บาทพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับ
มอบอำนาจ  อย่างละ 1 ฉบับ
               เอกสารเพิ่มเติมแล้วแต่กรณีการเปลี่ยนแปลงต่างๆดังนี้
     2.1 กรณีเปลี่ยนแปลงชื่อ - สกุล กรอกเอกสารคำขอ (แบบ ทพ.) ข้อ 1 และลงลายมือ
ชื่อ มีเอกสารเพิ่มเติมที่ต้องยื่นในการจดเปลี่ยนแปลงทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่              

 - สำเนาเอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อ – สกุล
 
     2.2 กรณีเปลี่ยนแปลงชื่อที่ใช้ในการประกอบพาณิชยกิจ (ชื่อร้าน) กรอกเอก
สารคำขอ (แบบ ทพ.) ข้อ 1 และ 2ลงลายมือชื่อ ไม่ต้องใช้เอกสารเพิ่มเติม
     2.3 กรณีเปลี่ยนแปลงชนิดแห่งพาณิชยกิจ (วัตถุประสงค์ของร้าน) กรอกเอก
สารคำขอ (แบบ ทพ.) ข้อ 1 และ 3ลงลายมือชื่อ ไม่ต้องใช้เอกสารเพิ่มเติม
     2.4 กรณีเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินทุนที่นำมาใช้ในการประกอบพาณิชยกิจเป็น
ประจำ (เงินหมุนเวียนต่อเดือน)กรอกเอกสารคำขอ (แบบ ทพ.) ข้อ 1 และ 4 ลงลายมือชื่อ ไม่ต้อง
ช้เอกสารเพิ่มเติม
     2.5 กรณีเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ (ที่ตั้งร้าน) หรือ เพิ่มสาขา กรอก
เอกสารคำขอ (แบบ ทพ.) ข้อ 1และ 5 หรือ 10 ลงลายมือชื่อ มีเอกสารเพิ่มเติมที่ต้องยื่นในการจดเปลี่ยน
แปลงทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่
                           - สำเนาสัญญาเช่า หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่  (กรณีไม่ใช่บ้านของตนเอง) (ถ้ามี) 
พร้อมสำเนาบัตรประจำตัว
ประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ให้ความยินยอมให้ใช้สถานที่  อย่างละ 1 ฉบับ
               1. กรณียกเลิกทะเบียนพาณิชย์
             กรอกเอกสารคำขอ (แบบ ทพ.) ข้อ 1, 2, 5 และลงลายมือชื่อ พร้อมยื่นเอกสารที่ต้อง
ใช้ในการจดทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่
       - ใบสำคัญใบทะเบียนพาณิชย์ (ตัวจริง) หรือ
       - เอกสารการแจ้งความ (กรณีใบสำคัญใบทะเบียน -พาณิชย์สูญหาย)
       - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
        - หนังสือมอบอำนาจ (กรณีผู้ประกอบการพาณิชย์  
ไม่ได้มาจดทะเบียนด้วยตนเอง) ติดอากรแสตมป์ 10 บาทพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และ
สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ  อย่างละ 1 ฉบับ 
ขั้นตอนการขอรับบริการข้อมูลธุรกิจ
     1. กรอกรายการตามแบบบริการข้อมูลธุรกิจ  และยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่/นายทะเบียน
     2. เจ้าหน้าที่ / นายทะเบียนตรวจคำขอ และหลักฐานต่างๆ
     3. ผู้ประกอบการรับเอกสารหรือข้อมูลตามที่ขอรับบริการ และชำระค่าธรรมเนียม
บริการข้อมูลธุรกิจของสำนักงานทะเบียนพาณิชย์องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม มีดังต่อไปนี้
         1. กรณีขอตรวจค้นเอกสาร  กรอกรายการตามแบบบริการข้อมูลธุรกิจ พร้อมยื่นเอกสารที่ต้อง
ใช้ในการจดทะเบียนพาณิชย์ได้แก่
                   - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
         2. กรณีขอรับรองสำเนาเอกสาร กรอกรายการตามแบบบริการข้อมูลธุรกิจ พร้อมยื่นเอกสารที่
ต้องใช้ในการจดทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่
                   - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
         3. กรณีขอใบแทน  กรอกรายการตามแบบบริการข้อมูลธุรกิจ พร้อมยื่นเอกสารที่ต้องใช้ในการ
จดทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่
                   - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
       - เอกสารการแจ้งความ (กรณีใบสำคัญใบทะเบียน -พาณิชย์สูญหาย) หรือ ใบสำคัญใบทะเบียน
พาณิชย์ (ตัวจริง)ที่เสียหาย
         4. กรณีขอถ่ายข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ กรอกรายการตามแบบบริการข้อมูลธุรกิจ พร้อมยื่น
เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่
                   - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
       - แถบบันทึกข้อมูล หรือ Handy  Drive หรือ แผ่น Floppy
                   อัตราค่าธรรมเนียม
                                  - จดทะเบียนพาณิชย์ (ตั้งใหม่)                       50       บาท
                                  - จดเปลี่ยนแปลงทะเบียนพาณิชย์                   20       บาท
                                  - จดยกเลิกทะเบียนพาณิชย์                            20       บาท
                                  - ขอตรวจค้นเอกสาร                                       20       บาท
                                  - ขอรับรองสำเนาเอกสาร                                 30       บาท
                                  - ขอใบแทน(ใบสำคัญใบทะเบียนพาณิชย์)       30       บาท
                                  - ขอถ่ายข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์              1,000  บาท/ครั้ง
                                     และคัดระเบียนละ                                          0.10    บาท
**หากมีข้อสงสัยติดต่อสอบถาม โทร. 0-3427-1751**
ขั้นตอนการจดทะเบียนพาณิชย์(คณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ)
         1. กรณีจดทะเบียนพาณิชย์ (ตั้งใหม่)
      กรอกเอกสารคำขอ (แบบ ทพ.) ข้อ 1 – 6 และ ข้อ 11กรอกรายละเอียดในส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน
โดยผู้ถือหุ้นทุกคนจะต้องลงลายมือชื่อ ส่วนในช่องผู้ประกอบการพาณิชยกิจให้  ผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการคณะบุคคล 
หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ เป็นผู้ลงลายมือชื่อ พร้อมยื่นเอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่
      - สำเนาหนังสือจัดตั้งคณะบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนสามัญติดอากรแสตมป์ 5 บาท โดยต้องแจก
แจงรายละเอียดชื่อคณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ, สถานประกอบการหรือที่ตั้ง,  วัตถุประสงค์ในการ
ประกอบการ, รายละเอียดผู้ถือหุ้น, จำนวนทุนหุ้น, หุ้นส่วนผู้จัดการ, และการแบ่งผลกำไรขาดทุนให้ชัดเจน 
พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ร่วมคณะบุคคล
หรือผู้ถือหุ้นทุกคน อย่างละ 1 ฉบับ
      - รายงานการประชุมผู้ร่วมก่อตั้งคณะบุคคล หรือ     รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น (ถ้ามี)
                  - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของหุ้นส่วนผู้จัดการคณะบุคคล 
หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ  พร้อมรับรองสำเนา  อย่างละ    1  ฉบับหรือ
                  - หนังสือมอบอำนาจ (กรณีหุ้นส่วนผู้จัดการคณะ -บุคคล หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ ไม่ได้
มาจดทะเบียนด้วยตนเอง) ติดอากรแสตมป์ 10 บาทพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนา
ทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ  อย่างละ 1 ฉบับ
      - สำเนาสัญญาเช่าสถานประกอบการ หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่  (ถ้ามี) พร้อมสำเนา
บัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ให้ความยินยอมให้ใช้สถานที่  อย่างละ 1 ฉบับ
         2. กรณีจดเปลี่ยนแปลงทะเบียนพาณิชย์
       กรอกเอกสารคำขอ (แบบ ทพ.) แล้วแต่กรณี และหุ้นส่วนผู้จัดการคณะบุคคลหรือห้างหุ้น
ส่วนสามัญเป็นผู้ลงลายมือชื่อในช่องผู้ประกอบการพาณิชยกิจ    พร้อมยื่นเอกสารที่ต้องใช้ในการจด
ทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่  
       - ใบสำคัญใบทะเบียนพาณิชย์ (ตัวจริง) หรือ
       - เอกสารการแจ้งความ (กรณีใบสำคัญใบทะเบียน -พาณิชย์สูญหาย)
       - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของหุ้นส่วนผู้จัดการคณะบุคคล
หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ พร้อมรับรองสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ หรือ
       - หนังสือมอบอำนาจ (กรณีหุ้นส่วนผู้จัดการคณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญไม่ได้มาจด
ทะเบียนด้วยตนเอง) ติดอากรแสตมป์ 10 บาทพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียน
บ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ  อย่างละ 1 ฉบับ

Credit : http://www.nkppao.go.th/content-32-533.html

แบบฟอร์มเอกสาร การจดทะเบียนพาณิชย์

วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มาทำบุญ ด้วยการ "กินเจ" กันเถอะค่ะ


              "กินเจ" เป็นคำที่คุ้นหูกันมากสำหรับบรรดาสาธุชนผู้ใฝ่ใจในการปฏิบัติธรรมทั้งหลาย แต่สำหรับคนทั่วไปส่วนใหญ่ยังคงคิดกันไปว่า การกินเจเป็นเรื่องของคนที่เชื่อบาปเชื่อบุญมากกว่า จะเห็นว่าแท้จริงแล้วการกินเจเป็นเรื่องของเหตุและผลที่ถูกต้องดีงาม มีคำกล่าวว่า "คนเราจะยืนได้ ขาทั้งสองต้องแข็งแรงเสียก่อน" ความหมายก็คือ ก่อนที่เราจะลงมือปฏิบัติการงานใดๆ ก็ตาม จำเป็นต้องมีพื้นฐานที่มั่นคงเสียก่อน สิ่งสำคัญสองประการที่จะช่วยเหลือค้ำจุนให้เรามีรากฐานที่มั่นคง ได้แก่ 
ประการที่ 1 คือ "ความรู้" เราต้องศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่จะปฏิบัติให้ดีเสียก่อน โดยอาศัยการได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน มามากพอสมควร 

ประการที่ 2 คือ "สติปัญญา" เราต้องรู้จักใช้สติปัญญาเข้าไปพิจารณาความรู้เหล่านั้นอย่างรอบคอบ จนบังเกิดความเข้าใจกระจ่างชัดถึงเหตุและผล โดยถูกต้องถ่องแท้ หากจะลงมือปฏิบัติการใดๆ โดยขาดทั้งความรู้และสติปัญญาพิจารณา ก็ยากที่จะสำเร็จลุล่วงไปได้ เมื่อไม่ศึกษาก็ไม่รู้ รู้แล้วไม่พิจารณาก็ไม่เข้าใจ แต่ผู้ที่ศึกษาจนเข้าใจดีแล้ว ยังไม่ลงมือปฏิบัติก็ไร้ประโยชน์ โอสถทิพย์แม้จะวิเศษล้ำเลิศสักปานใด หากคนไม่ยอมกิน ผลดีนั้นก็ไม่มีทางจะเกิดขึ้นแก่เขาได้เลย การกินเจเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน ผู้ที่ได้ปฏิบัติแล้วเท่านั้นจึงจะประจักษ์แจ้งถึงคุณวิเศษ อันล้ำเลิศได้ด้วยตนเอง 


บทความเรื่อง "การกินเจ" นี้ จึงมุ่งหวังให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาในอีกแง่มุมหนึ่งของการกินเจ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน และเรียนรู้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อไปภายหน้า ฉะนั้นขอให้ผู้ที่มีรากบุญกุศล อันสร้างสมมาแล้วในอดีต และตั้งใจจะปฏิบัติบำเพ็ญต่อไปในชาตินี้ควรศึกษา "การกินเจ" ให้เข้าใจกระจ่างแจ้ง เมื่อใดที่ศรัทธามั่นคงดีแล้ว จิตย่อมบังเกิดมีพลังแกร่งกล้า สามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลาย บนเส้นทางของการบำเพ็ญธรรม และแล้วเมื่อนั้นเราก็จะสามารถบรรลุสู่เป้าหมายอันสูงสุดไปได้โดยไม่ยากเลย 


ความหมายของคำว่า "เจ" 


คำว่า "เจ" ในภาษาจีนมีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า "อุโบสถ" คำว่า "กินเจ" ตามความหมายที่แท้จริงคือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน ดังเช่นที่ชาวพุทธในประเทศไทยถือ "อุโบสถศีล" หรือ "รักษาศีล 8" จะไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีล ของชาวพุทธฝ่ายมหายานไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมเรียก "การไม่กินเนื้อสัตว์" ไปรวมกันคำว่า "กินเจ" ซึ่งเป็นการถือศีลไปด้วย ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่า "กินเจ" ฉะนั้นความหมายก็คือ "คนกินเจ" มิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่คนที่กินเจ ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์สะอาด งดงามทั้งกาย วาจา ใจ เป็นการถือศีลบำเพ็ญธรรมไปด้วยพร้อมกัน เช่นนี้แล้วจึงจะเรียกว่า "กินเจที่แท้จริง" ดังนั้น คำคล้องจองที่เราได้ยินอยู่เสมอ คือ "ถือศีลกินเจ" จึงนับว่ามีความหมายสมบูรณ์ครบถ้วนอยู่ในตัวเองแล้ว 

ตามร้านขาย "อาหารเจ" เราจะพบเห็นตัวอักษร คำนี้อ่าน "ไจ" (เจ) แปลว่า "ไม่มีของคาว" เขียนด้วยสีแดงบนพื้นสีเหลืองเสมอ ในช่วงเทศกาลกินเจเดือน 9 จะเห็นตัวอักษรนี้เขียนบนธงสีเหลือง ปักอยู่ตามแผงขายอาหารเจมองเห็นเป็นที่สะดุดตาแก่คนทั่วไป ชาวจีนถือว่าสีแดงเป็นสีแห่งสิริมงคลแก่ชีวิต สีเหลืองเป็นสีของผู้ทรงศีล ดังนั้นผู้ตั้งใจถือศีลบำเพ็ญตนให้บริสุทธิ์ ตัวอักษรนี้ย่อมเป็นเครื่องหมายเตือนสติให้ระลึกไว้เสอมว่า "การกินเจงดเว้นเนื้อสัตว์ของคาวคือ การปฏิบัติธรรม รักษาศีลของความเป็นมนุษย์ เป็นการเจริญมหาเมตตากรุณาธรรมโดยแท้ อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และก่อให้เกิดสันติสุขแก่ทุกชีวิตบนโลก" 

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วิธีการติดตั้ง Microsoft Office 2010

1. ในโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ติดตั้ง Microsoft Office 2010 ให้ดับเบิลคลิกที่โฟลเดอร์นั้น





2.ดับเบิลคลิกที่ Set up


3. หน้านี้จะถามว่าคุณจะติดตั้งโปรแกรมนี้ไหม ให้ตอบ Yes


4.ทำการยอมรับเงื่อนไขที่กำหนด คลิก Continue


5.คลิก Install Now


6.รอจนการติดตั้งโปรแกรมแล้วเสร็จ


7.ใซ์ถัดไปคลิก Close เพื่อจบการติดตั้ง Microsoft Office 2010

วิธีการลง WINDOWS 7

1. ใส่แผ่น Windows7 แล้วทำการ Restart เครื่อง เมื่อหน้าจอดับให้กด spec bar และF10 พร้อมกัน

2.ทำการเปลี่ยนภาษาตามนี้
Language to install : English
Time : Thai(Thailand)
Keyboard : US ให้เลือกเป็น US ก่อน

3. จากนั้นให้ทำการกด Install now

5. ยอมรับเงื่อนไข Lincene ของ windows 7

6. ขั้นตอนนี้ให้เลือก Custom(advanced)

ึ7. คลิก Drive options แล้วคลิก Disk 0 Partition 1 จากนั้น คลิก คำว่า Delete เพื่อลบ Drive C

8. คลิก OK แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้

- คลิก New

- คลิก Apply

-คลิก Next

9.ขั้นตอนนี้เป็นการรอ ระบบกำลังติดตั้ง

-ต่อมาหน้าจอจะโชว์หน้าต่างนี้ให้คลิก Enter จากนั้นระบบก็จะทำงานต่อไปดังรูป


10.ใส่ accout เครื่องที่ใช้

-เมื่อถึงหน้าจอนี้ จะให้ใส่ Password แต่เราไม่ใส่ให้คลิก Next


11. ขั้นตอนนี้ให้เราเลือก Use recommended Setting เพื่อเป็นการ Update Patch windows ต่างๆ

12.ให้เราเลือกเวลา Time Zone : UTC+07.00 Bangkok,Hanoi,Jakarta

13.เลือกเครือข่ายสัญญาณ WiFi

14.ในหัวข้อนี้ถ้าเรายังไม่แน่ใจ ให้เราเลือก Work network


15.เสร็จสมบูรณ์

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

หลักการ การออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟฟิก

ความสำคัญของการออกแบบ

....... การออกแบบ มีอิทธิพลต่อการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์เรา เกี่ยวข้องกับ ทุกระดับอายุ ทุกเพศ ทุกอาชีพ ทุกคนมีความรักสวย รักงาม ดังสุภาษิตไทยที่ว่า " ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง " เช่น การแต่งกายที่แต่ละคนต่างล้วนเลือกสรรและเลือกอย่างรอบคอบให้เข้ากับบุคลิกและสรีระของตน เริ่มตั้งแต่ ลวดลาย สีเสื้อผ้าจะต้องกลมกลืนเข้ากัน มีผลต่อความสูง ความอ้วน เช่น คนตัวเตี้ยควรจะใส่เสื้อลายเส้นตรงแนวดิ่งที่มีหลายเส้น ส่วนคนอ้วนควรเลือกลายเส้นตรงแนวดิ่งที่มีสามสี่เส้น เน้นสีสดอยู่ส่วนที่เป็นแถบกลางตัว สีเข้มมืดๆอยูแถบข้างลำตัวทั้งสองข้าง เป็นต้น รวมไปถึงเครื่องประดับต่างๆ เช่น แหวน นาฬิกา สร้อยคอ เข็มกลัดติดเสื้อ จนถึงแว่นตา ต้องมีการออกแบบเพื่อให้ถูกใจเหมาะสมผู้ใช้ทั้งสิ้น ถ้ามองไปถึงเก้าอี้นั่ง รูปทรงแบบใดเหมาะกับงานชนิดใด สถานที่ใด เช่น ใช้กับโต๊ะทำงานปกติ ใช้กับโต๊ะคอมพิวเตอร์ ติดตั้งบนรถเก๋ง รถโดยสาร รถไฟฟ้า หรือในโรงภาพยนตร์ การเลือกซื้อรถยนต์ เกินกว่า 70 % เลือกที่รูปทรงและสีของรถ แม้แต่เม็ดยาที่เรากินรักษาโรค ยังต้องออกแบบให้มีสีน่ากิน เคลือบรสหวาน รูปทรงกลม มน กลืนง่าย เป็นต้น
.......มนุษย์เราให้ความสำคัญในด้านการออกแบบมาก จะเห็นได้ว่าการออกแบบศิลปะนั้นเป็นสิ่งที่ควบคู่อยู่กับความสุนทรียะของมนุษย์ตลอดมา

.......1. ช่วยถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดให้เป็นรูปธรรมได้ชัดเจน
.......2. เป็นภาพที่ติดอยู่กับวัสดุต่าง ๆ ได้นานสามารถนำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงได้
.......3. ช่วยให้การสื่อสารและการเรียนรู้สะดวกและมีประสิทธิภาพ
.......4. ช่วยให้ผู้ชมเพลิดเพลินจากลายเส้นและสีสันที่สวยงาม
.......5. เป็นสื่อที่มีปริมาณการรับรู้มากที่สุด

หลักการออกแบบกราฟิก (The Principler of Graphic Design)

.......ก่อนที่จะทำงานออกแบบกราฟิกประเภทใดก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ การกำหนดจุดประสงค์ที่ชัดเจนของงาน เพราะช่องทาง รูปแบบและวิธีการ ของการนำเสนอมีมาก มีความรวดเร็ว ไร้ขอบเขต เช่นใน เว็บไซต์ เครือข่ายอินเตอร์เน็ตต่างๆ ซึ่งต้องมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้ทันเหตุการณ์ อาจจะทำให้เกิดความสับสน ยุ่งยากในการดำเนินงาน มีผลกระทบต่อการทำงาน เกิดความไม่เป็นระบบ มีการสูญเสียและสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น

vv..ดังนั้นผู้ออกแบบจึงควรมีหลักการและข้อควรคำนึงก่อนการเริ่มงานเพื่อการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง รัดกุมและวางแผนการดำเนินงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีตลอดจนจบกระบวนการ ไม่มีปัญหาและอุปสรรค

หลักการดำเนินงานออกแบบกราฟิก

.....หลักการดำเนินงานและการวางแผนขั้นต้นของการออกแบบกราฟิกมีดังนี้
......1. วัตถุประสงค์เพื่ออะไร ผู้ออกแบบต้องรู้ว่า จะบอกกล่าว เรื่องราวข่าวสารอะไรแก่ผู้รับรู้บ้าง เช่น ทฤษฎีหรือหลักการ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ผู้ออกแบบต้องรู้วิธีการนำเสนอ (Presentation) ที่ดีและเหมาะสมกับเรื่องราวเหล่านั้นว่ามีเป้าหมายของการออกแบบเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด เช่น เพื่อแนะนำ เผยแพร่ เพื่อให้ความรู้ หรือความบันเทิงเป็นต้น
.......2. กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร แบ่งเป็นเพศ ชาย หญิง ่หรือบุคคลทั่วไป มีช่วงอายุเท่าใด นิสิตนักศึกษาหรือเฉพาะกลุ่มสนใจ ข่าวสารที่ให้มีระดับความยาก-ง่าย หรือมีความเป็นสากลหรือไม่ เฉพาะคนในประเทศหรือชาวต่างชาติ ซึ่งผู้ออกแบบจำเป็นจะต้องรู้และเข้าใจเพื่อวางแผน ดำเนินการกับข่าวสาร ออกแบบ และการนำเสนอให้ตรงจุดกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ถูกต้อง
......3. สิ่งที่ต้องการบอกคืออะไร หมายถึง วิธีการที่จะสื่อความหมายกับผู้รับรู้หรือกลุ่มเป้าหมาย และถ้าที่มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ล่วงหน้า ชัดเจนแล้วก็จะทำให้ผู้ออกแบบมีความสะดวกในการที่จะบอกหรือสื่อความหมายได้ง่ายขึ้น เช่น การเลือกใช้สัญลักษณ์ เครื่องหมาย และภาพประกอบต่าง ๆสื่อแทนคำศัพท์ ข้อความที่เป็นนามธรรม ได้ตรงตามระดับความสามารถในการรับรู้ของผู้รับ จะช่วยให้เกิดความเข้าใจในความหมายของข่าวสารนั้น ๆ จำได้ในเวลาอันรวดเร็วและจดจำไว้ตลอดไป
.......4. นำเสนอข่าวสารด้วยสื่อใด แบบใด ผู้ออกแบบต้องมีความรู้เกี่ยวกับประเภทของสื่อ ศักยภาพของสื่อชนิดต่างๆ คำนึงถึงการเลือกใช้สื่อในการนำเสนอข่าวสารเป็นรูปแบบใด จึงจะได้ผลดีมีความเหมาะสมกับข่าวสาร และผู้ออกแบบควรจะใช้วิธีการจัดการกับข่าวสารนั้น อย่างไร จึงจะสามารถโน้มน้าวจิตใจและสื่อความหมายต่อผู้รับได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น โปสเตอร์ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ


การออกแบบกราฟิก

.......ส่วนใหญ่เป็นวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกถึงการสื่อความหมายในลักษณะของตัวอักษรและภาพในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งเป็นการสื่อสารทางทัศนสัญลักษณ์ (Visual form) ดังนั้นในการออกแบบจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีการเรียนรู้เกี่ยว การมองเห็นและจิตวิทยาที่เกี่ยวข้อง


ที่มา :
ถาวร สายสืบ.การประกอบภาพ.พิษณุโลก:ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
......คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2546. http://202.29.7.2/teacher/sudatip/Elearning_files/DATA6.HTML

(ข้อมูลเว็บไซต์ อ้างอิงเมื่อ 07/11/06)

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554